TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 12

แผนการเล่น : 4-5-1 

ประตู : พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (พีทีที ระยอง) 

เจองานหนักทีเดียวในการป้องกันเกมโจมตีของ สุพรรณบุรี แต่ “เอิร์น” ก็ยังปัดป้องไว้ได้หมด จนพาทีมบุกมาแบ่งแต้มพร้อมกับรักษาคลีนชีท สมกับที่ได้รับเสียงชื่นชมมาในหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ถือเป็นผู้รักษาประตูที่น่าจับตามองคนหนึ่งในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว

กองหลัง : โชติภัทร พุ่มแก้ว (เชียงใหม่ เอฟซี)

ตกสำรวจในตำแหน่งแบ็คขวาทีมชาติไทยชุดปรีโอลิมปิกอย่างน่าเสียดาย แต่ “เจ้าจ๊อบ” ไม่เสียขวัญแต่อย่างใด และกลับทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งในการเฝ้ารังสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งน่าจะเป็นเกมสุดท้ายก่อนปรับปรุงสนาม นัดนี้นอกจากเกมรับจะทำได้ยอดเยี่ยมแล้ว ยังเป็นคนทำประตูชัยให้ทีม “พยัคฆ์ล้านนา” เก็บชัยชนะได้อีกครั้งหลังจากห่างเหินมาพักใหญ่

กองหลัง : อันเดรส ตูนเยซ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ปราการหลังชาวเวเนซูเอล่า ประกบติดจน ธีรศิลป์ แดงดา ไม่สามารถเก็บบอลได้เลยทั้งภาคพื้นดินและอากาศ นอกจากนั้นยังเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเกมขึ้นมาจากแดนหลัง คอยสั่งการและกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมเป็นภาพที่คุ้นตาเหมือนในทุกๆ  นัด ในช่วงที่ เมืองทอง พยายามเปิดเกมรุกใส่ ก็ได้ ตูนเยซ ทำหน้าที่หัวใจในเกมรับจนกระทั่งทีมมาได้ประตูชัยและเก็บคลีนชีทได้ตามเป้า

กองหลัง : เอฟสัน ปาตริซิโอ (เชียงใหม่ เอฟซี)

ในวันที่เชียงใหม่มีกับไม่มี เอฟสัน ผลงานช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ปราการหลังเลือดแซมบ้าคือหัวใจหลักในแต่ละเกมว่าทีมจะคว้าแต้มหรือไม่ด้วยซ้ำ เกมนี้รับมือกับกองหน้าของประจวบ ทั้ง มาเธอุส อัลเวส และ  แฮร์ลิสัน แคยอน ได้ตลอดทั้งเกม และมีผลอย่างมากต่อการคว้าชัยพร้อมกับไม่เสียประตูในเกมนี้

กองหลัง : สถาพร แดงสี (ตราด เอฟซี)

วิ่งขึ้นลงรุกรับแบบไม่มีหมดตลอด 90 นาที มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมรุกทางฝั่งซ้ายอยู่บ่อยๆ และเป็นคนแอสซิสต์ให้ ดูโรซินมี่ ทำประตูแรกได้อีกด้วย ถือเป็นมดงานคนสำคัญที่มีผลต่อฟอร์มที่เหนือความคาดหมายของทีมน้องใหม่อย่าง “ช้างขาวเจ้าเกาะ”

กองกลาง: ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ใช้ความเร็วและความคล่องตัวกระชากเลี้ยงกินตัวโจมตีแบ็คขวาของ เมืองทอง จนเป๋็ไปหลายครั้งโดยเฉพาะในช่วง 20 นาทีสุดท้ายที่โผล่มาทีไรก็ปั่นป่วนแนวรับ “กิเลนผยอง” ได้ตลอด และสุดท้าย “พี” ก็มาเป็นคนซัดประตูชัยจากลูกยิงไกลด้วยเท้าขวาแฉลบ สารัช อยู่เย็น เข้าไป เก็บ 3 แต้มสำคัญให้กับ “ปราสาทสายฟ้า”

กองกลาง : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี) 

แม้จะผิดหวังกับการไม่มีชื่อในทีมชาติยู23 ชุดสู้ศึกเมอร์ไลอ้อนคัพ แต่กลับกัน “เจ้ายิม” พิสูจน์คุณค่าด้วยการคุมเกมแดนกลางในพื้นที่หลังกองหน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งสร้างโอกาสให้เพื่อนและหาโอกาสจบสกอร์เองได้หลายครั้ง จนกระทั่งกลับมาทำประตูชัยให้ทีมคว้า 3 แต้มในรังได้สำเร็จ

กองกลาง : อเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ (ตราด เอฟซี)

“ช้างขาวเจ้าเกาะ” เป็นทีมที่ 3 แนวรุกต่างชาติผลัดกันทำผลงานยอดเยี่ยมในแต่ละสัปดาห์ เกมนี้โดดเด่้นที่สุดต้องยกให้ปีกตัวจี๊ดชาวไนจีเรีย ที่กระชากลากเลื้อยจนแผงเกมรับของ เชียงราย ยูไนเต็ด จนปัญหาที่จะรับมือ พร้อมกับงัดฟอร์มสุดยอดยิง 2 จ่าย 1 มีส่วนร่วมกับทุกประตูที่ ตราด ทำได้

กองกลาง : เอียน แรมเซย์ (สุโขทัย เอฟซี)

ปีกซ้ายทีมชาติฟิลิปปินส์ โชว์ฟอร์มสุดยอดยิง 1 จ่าย 1 ช่วยให้ทีม “ค้างคาวไฟ” เปิดบ้านเอาชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ไปได้อย่างงดงาม 2-0 ถือเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ของเจ้าตัวเลยทีเดียว

กองกลาง : ทริสต็อง โด (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด) 

แข้งลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส วิ่งเติมเกมรุกแบบไม่มีหมด มีส่วนกับเกมของ “แข้งเทพ” ในการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมตลอดด้วยความขยันทุ่มเท และยังเป็นคนซัดประตูชัยให้ทีมพลิกกลับมาแซงชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ ไปได้ 2-1

กองหน้า : ลอนซาน่า ดูมบูญ่า (ตราด เอฟซี)   

ทั้งเก็บบอลและพิงสู้กับกองหลังคู่ต่อสู้ได้ดีตามมาตรฐานเช่นเคยสำหรับอดีตหัวหอกทีมชาติกินี อาศัยความใหญ่คอยพักบอลให้เพื่อนชิงจังหวะโหม่งได้ตลอด และใช้ความแข็งแกร่งขึ้นโขกประตูให้ทีมคลายความกดดันด้วยลูกนำ 2-0 ถือเป็นผู้เล่นต่างชาติที่กองหลังทุกทีมหวาดผวาที่สุดแล้วในไทยลีกฤดูกาลนี้

เฮดโค้ช : พยงค์ ขุนเณร (ตราด เอฟซี)

ท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากเกมก่อนหน้าที่ อ.พยงค์ คือคนที่เคลียร์กับผู้ใหญ่แทนลูกทีมและใช้ความเป็นอาจารย์่ีที่ผู้เล่นในทีมยอมรับนับถือ ทำให้สปิริตของทีมไม่จางหายไป เกมนี้วางแผนมาเป็นอย่างดีในการรับมือกับทีมหัวตารางอย่าง เชียงราย และเล่นได้อย่างไม่เป็นรอง ก่อนจะใช้ทีเด็ดจาก 3 แนวรุกต่างชาติช่วยกันมาทีมคว้าชัยไปได้แบบสวยงาม 3-1