TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 10

แผนการเล่น : 4-4-2

ประตู : นนท์ ม่วงงาม (เชียงใหม่ เอฟซี) 

ก่อนเกม เชียงใหม่ ดูเป็นรอง แบงค็อก มากพอสมควร เกมนี้ “นนท์” โชว์ฟอร์มเซฟป้องกันลูกยากๆ ได้หลายครั้ง โดยเฉพาะการดวลกับ เนลสัน โบนีญ่า แต่ก็ปล่อยให้ลูกหลุดไปกองก้นตาข่ายเพียงครั้งเดียวในจังหวะที่ไม่มีโอกาสป้องกัน ถือเป็นการกลับมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งของนายด่านวัย 22 ปี

กองหลัง : เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)

เติมเกมรุกทางริมเส้นฝั่งซ้ายได้หวือหวาโดยตลอด และเป็นคนแอสซิสต์ด้วยการครอสบอลโค้งอย่างแม่นยำให้ ดราแกน บอสโควิช โหม่งทำประตูแรก ส่วนในเกมรับก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานเช่นเคย

กองหลัง : สราวุธ กัลยาณบัณฑิต (สมุทรปราการ ซิตี้)

โดดเด่นมากในการป้องกันลูกกลางอากาศโดยเฉพาะลูกตั้งเตะของ เมืองทอง และยังมีโอกาสขึ้นมาลุ้นโหม่งทำประตูได้อีกด้วย เกมนี้ประกบ ธีรศิลป์ แดงดา จนแทบกระดิกตัวไม่ออกเลยทีเดียว

กองหลัง : พรรษา เหมวิบูรณ์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ยืนตำแหน่งในเกมรับได้ดี ป้องกันลูกกลางอากาศรวมถึงคอยบล็อกจังหวะยิงประตูของ นครราชสีมา ได้ตลอด ช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีทพร้อมกับเก็บ 3 แต้มเต็มในศึกดาร์บี้แมตช์ภาคอีสานได้ตามเป้าหมาย

กองหลัง : บรินเนอร์ เฮนริเก้ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

มีบทบาทเป็นผู้นำในแนวรับของ “กว่างโซ้ง” ด้วยสไตล์การเล่นดุดันและแข็งแกร่ง สกัดกั้นและสั่งการเพื่อนร่วมทีมให้ช่วยกันป้องกันความคล่องตัวของ อาเรียล โรดริเกวซ ได้เป็นอย่างดี จนช่วยให้ทีมปลดล็อคคว้า 3 แต้มแรกในรังเหย้าได้สำเร็จ

กองกลาง: เจริญศักดิ์ วงศ์กร (สมุทรปราการ ซิตี้)

ลากเลื้อยทางกราบขวาแบบผ่านตลอด ช่วงนี้ฟอร์มกำลังแรงจนได้รับโอกาสเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง มีส่วนร่วมกับเกมรุกของ สมุทรปราการ แทบทุกจังหวะ เกมนี้ทำไปหนึ่งแอสซิสต์พร้อมทั้งยิงประตูได้อีก 1 ลูกด้วยความเฉียบขาด

กองกลาง : สุมัญญา ปุริสาย (การท่าเรือ เอฟซี)

เล่นในตำแหน่งถนัดคือเพลย์เมกเกอร์หลังกองหน้า ซึ่ง “ตั๊ก” พาตัวเองไปมีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะมาก เกือบจะทำประตูได้หลายต่อหลายครั้ง แม้ยิงประตูไม่ได้แต่ก็มีส่วนช่วยทำให้ดราแกน บอสโควิช ยิงไป 1 ประตู ถือเป็นดาวเด่นอีกคนหนึ่งของ ไทยลีก ในช่วง 10 เกมแรก

กองกลาง : อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด) 

“นนท์” เล่นได้เด่นมากๆ ในการทำเกมรุกประสานงานกับ เนลสัน โบนีญ่า ประตูที่ “แข้่งเทพ” ทำได้ก็มาจากความนิ่งในการล็อกบอลหลบอย่างเยือกเย็น ก่อนจะโชว์ความใจกว้างผ่านบอลให้ โบนีญ่า ยิงโล่งๆ นอกจากนั้นยังสร้างสรรค์โอกาสลุ้นประตูให้ัตัวเองและเพื่อนร่วมทีมได้หลายครั้ง

กองกลาง : ธีระพล เยาะเย้ย (สมุทรปราการ ซิตี้)

“เอี้ยง” มีบทบาทสำคัญอย่างมากในเกมนี้ มักจะเป็นตัวที่เก็บบอลได้เสมอเวลาที่ทีมได้สวนกลับ เคลื่อนตัวหาที่ว่างให้เพื่อนตลอดเวลา และมายิงประตูปิดกล่องในช่วงท้ายเกม ช่วยพาทีม “เขี้ยวสมุทร” บุกมาถล่ม “กิเลนผยอง” ได้ถึงถิ่นแบบขาดลอย

กองหน้า : ดิยุฟ บีรัม (ตราด เอฟซี)   

ศูนย์หน้ากัปตันทีมวัยย่าง 35 ปี เหมาแฮททริคจากการทำประตูที่เด็ดขาดทั้งยิงและโหม่ง ช่วยให้ทีมตามตีเสมอ ชลบุรี ได้ถึง 3 ครั้ง 3 คราโดยเฉพาะลูกสุดท้ายที่เวลาแทบจะหมดอยู่แล้ว และนี่คือแฮททริคแรกในเวทีไทยลีกของเจ้าตัวในการมาค้าแข้งนานถึง 10 ปีอีกด้วย

กองหน้า : ดราแกน บอสโควิช (การท่าเรือ เอฟซี) 

ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีม “สิงห์เจ้าท่า” กลับมายิงประตูได้อย่างเฉียบคมเด็ดขาดอีกครั้ง นัดนี้เหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยคลายความกดดันให้ทีม ก่อนบุกมาถล่มชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่เก่งในรังได้แบบหมดจดถึง 3-0

เฮดโค้ช : สุรพงษ์ คงเทพ (สมุทรปราการ ซิตี้) 

พาลูกทีมบุกมาเยือนถิ่นเก่าสมัยที่เป็นโค้ชลูกหม้อของ เมืองทอง และถือว่าแท็กติกที่ใช้สมบูรณ์แบบไปหมดในการตั้งรับอย่างเหนียวแน่นและใช้ความเร็วของ เจริญศักดิ์ กับ ธีระพล คอยโต้กลับโจมตีแบ็กทั้งสองข้างอย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนตัว คาร์เลา ลงไปโหม่งประตูให้ทีมขึ้นนำก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการแก้เกมของ “โค้ชอั๋น” นั้นถูกที่ถูกเวลา ถือเป็นกุนซือหนุ่มที่อนาคตไกลอีกคนของวงการบอลไทย