วีเออาร์เซฟยูเว่เชือดซามพ์2-1ทิ้ง12แต้ม

ยูเวนตุส ส่งตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาประจำการณ์ในแนวรุกอีกครั้งหลังเป็นสำรองในเกมที่แล้วประสานงาน เปาโล ดีบาล่า และ มาริโอ มานด์ซูคิช ด้าน ซาพ์โดเรีย มีทีเด็ดที่แดนหน้า ฟาบิโอ กวายาเรลล่า เด็กเก่า ‘ม้าลาย’

เพียง 2 สกอร์เจ้าถิ่นพังตาข่ายขึ้นนำ 1-0 ดีบาล่า วางบอลยาวจากกลางสนามให้ โรนัลโด้ ทางหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ใช้ทักษะดูดบอลลงพื้นลากตัดเข้าเท้าขวาแล้วปั่นเสียบเสาไกล เป็นลูกที่ 13 ของเจ้าตัวใน เซเรีย อา ฤดูกาลแรก

‘ม้าลาย’ เกือบได้ลูกสองนาที 24 เมื่อ ดีบาล่า วางเท้าซ้ายปั่นกลางประตู 20 หลา โค้งหลุดเสาซ้ายไม่กี่คืบ

ทว่านาที 32 เป็น ‘ลา ซามพ์’ เรียกจุดโทษ จังหวะต่อเนื่องหลังเตะมุมบอลมาโดนมือ เอ็มเร่ ชาน ในกรอบ 18 หลา ผู้ตัดสินดูวีเออาร์แล้วชี้ว่าแฮนด์บอลจริงๆ

มือสังหาร กวายาเรลล่า ซัลโวใส่กลางประตูแต่นายด่าน มัตเตีย เปริน พุ่งผิดทาง สกอร์เท่ากันที่ 1-1 เมื่อจบครึ่งแรก

กลับมาสู้ต่อนาที 53 ม้าลาย พลาดโอกาสทองเมื่อ แบลส มาตุยดี้ ได้ยืนโล่งๆแปกะให้ยัดเสาขวา ทว่าถูกนายด่าน เอมิล  อูเดโร่ พุ่งปัดทิ้ง

แอ็คชั่นสวยๆในเกม

กระทั่งผ่านหนึ่งช่วงโมง 3 นาที ‘ยูเว่’ มาได้จุดโทษบ้างจากลูกเตะมุมเปิดกดดันเข้าปากประตูบอลแฉลบแขน อเล็กซ์ แฟร์รารี่ กองหลัง ‘ลา ซามพ์’ ผู้ตัดสินจับแฮนด์บอล ซึ่งพอไปดูวีเออาร์ก็สำทับยืนยัน

คนยิงคือ โรนัลโด้ กดไปกลางประตูไม่พลาดทีมขึ้นนำ 2-1 พร้อมส่งให้เจ้าตัวขึ้นดาวซัลโลเดี่ยวๆที่ 14 ลูก

จากนั้นเจ้าถิ่นพยายามพังตาข่ายเพิ่มแต่ไม่เด็ดขาดพอ กระทั่งนาที 90+2 เกือบช็อกเพราะนายด่าน มัตเตีย เปริน ออกบอลพลาดถูก ซามพ์โดเรีย ฉกไปได้ แล้วไหลให้ ริคคาโด้ ซาปาโนร่า วางเท้าซ้ายปั่นโค้งหน้ากรอบฝั่งขวาเสียบใต้คาน

ทว่าเจ้าหน้าที่วีเออาร์ส่งสัญญาณมาในสนามว่า ซาปาโนร่า ขึ้นมาเล่นบอลต่อเนื่องจากจังหวะล้ำหน้า ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ จึงโดนริบปะตูคืน

ผ่านทดเจ็บ 6 นาที เชิ้ตดำเป่าหมดเวลา ยูเว่ เชือด 2-1 เก็บแต้มที่ 53 มากสุดประวัติศาสตร์เซเรีย อา เมื่อผ่านครึ่งฤดูกาล ทิ้ง นาโปลี รองจ่าฝูง 12 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ยูเวนตุส : มัตเตีย เปริน – มัตเตีย เด ชีโญ่, ดินาเอเล่ รูกานี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อเล็กซ์ ซานโดร – เอ็มเร่ ชาน, มิราเล็ม เปียนิช, ซามี เคดิร่า – เปาโล ดีบาล่า, มาริโอ มานด์ซูคิช, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ซาพ์โดเรีย :  เอมิล  อูเดโร่ – ยาโคโป ซาล่า, อเล็กซ์ แฟร์รารี่, โอมาร์ คอลลี่ย์, นิโกล่า มูร์รู – เดนนิส ปราเอ่ต์, อัลบิน เอ็คดัล, คาโรล ไลเน็ตตี้ – กาสตัน รามีเรซ – ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, จานลูก้า คาปรารี่

ผู้ตัดสิน : เปาโล วาเลรี่