ผีเก่งทีมใหญ่ของจริงบุกยิงเรือใบ2-1
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเก่งกับทีมใหญ่ด้วยกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถึงขั้นบุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 แม้จะมีเสียวโดนตีเสมอในช่วงท้ายเกมก็ตาม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ 1 – แมนฯ ยูไนเต็ด 2
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที ผีแดงเกือบขึ้นนำเร็วจากจังหวะสวนกลับ เฟร็ด ไหลออกขวาให้ แดเนียล เจมส์ จับก่อนซัด แต่ เอแดร์ซอน ก็ยังเซฟไว้ได้
เกมเปิดแลกสนุกตั้งแต่หัววันเลย ลูกนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้เก็บตกในเขตโทษฝั่งขวาแล้วตวัดยิงทันที บอลข้ามคานหลุดเสาไกลออกไป
นาทีที่ 9 แมนฯ ยูไนเต็ด สวนกลับมาน่ากลัวอีกครั้ง แรชฟอร์ด ไหลตามช่องให้ เจสซี่ ลินการ์ด หลุดไปยิงมุมแคบด้วยซ้าย แต่ เอแดร์ซอน ก็ยังเซฟได้อีกครั้ง
ผีแดงยังดีกว่าอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 16 แดเนียล เจมส์ ทะลุมาทางกราบขวาก่อนไหลคืนมาให้ มาร์กซิยาล จับก่อนซัดด้วยขวาเต็มแรง แต่ เอแดร์ซอน ก็ยังปัดได้อีก
กระทั่งนาทีที่ 23 ยูไนเต็ด มาได้จุดโทษ เมื่อ แรชฟอร์ด โดน แบร์นาร์โด้ ซิลวา หวดล้มลงไป แม้ผู้ตัดสินจะปล่อยเกมต่อเนื่องจนเรือใบสวนกลับมาแล้วได้จบ ทว่าจากการเช็กวีเออาร์แล้วก็มีการย้อนกลับมาให้ฟาวล์กับผีแดง ก่อนที่ แรชฟอร์ด จะลุกขึ้นมาสังหารเองเข้าไปไม่พลาด
อีก 2 นาทีถัดมา ผีแดงเกือบหนีห่างจากจังหวะสวนกลับ เฟร็ด พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายตามช่องเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แรชฟอร์ด เอี้ยวตัวแปย้อนทางแบบไม่จับ ทว่าบอลหลุดเสาไกลออกไป
นาทีที่ 27 ทีมเยือนมีลุ้นอีกหน เมื่อ มาร์กซิยาล ได้บอลทางขวาก่อนเปิดเรียดเข้ากลางให้ แรชฟอร์ด จับแล้ววางเท้ายิงเล่นทางไปชนคานโดยที่ เอแดร์ซอน ยืนนิ่งไปแล้ว
แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 2-0 จนได้ ในนาทีที่ 29 เมื่อ เจมส์ เล่นกับ มาร์กซิยาล สองคนก่อนที่หัวหอกฝรั่งเศสจะได้บอลในเขตโทษฝั่งขวาแล้วตวัดยิงด้วยซ้าย ลูกเรียดเสียบเสาแรกเข้าไปเลย
จากนั้น ผีแดงก็เปลี่ยนมาเน้นเกมรับเป็นหลัก และเปิดโอกาสให้เรือใบมีลุ้น นาทีที่ 38 เดอ บรอยน์ ตั้งป้องเปิดจากหน้าเขตโทษด้านขวาเข้ากลางให้ กาเบรียล เชซุส ได้พุ่งโหม่งคนเดียวหลุดกรอบซะงั้น
ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ น่าตีไข่แตกอีกหน เดอ บรอยน์ ทะลุไปเปิดจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาไปเสาไกล ทว่า ดาบิด ซิลบา ดันยิงวืดอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก ผีแดงนำอยู่ 2-0
ในครึ่งหลัง นาทีที่ 55 เรือใบเกือบตีไข่แตก เมื่อ โรดรี้ จ่ายบอลมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ ได้หลุดไปยิงในเขตโทษฝั่งขวา แต่ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ยังตามมาบล็อคจังหวะสุดท้ายได้หวุดหวิด
นาทีที่ 64 แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสได้อีกครั้ง เมื่อ เดอ บรอยน์ จ่ายไปให้ โรดรี้ เอร์นานเดซ เลี้ยงมาหาช่องตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ เด เคอา ยังบินปัดเอาไว้ได้
อีก 2 นาทีถัดมา ผีแดงมีโอกาสสวนกลับสวยๆ แดเนียล เจมส์ ปั้มบอลมาได้ก่อนจะจ่ายเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ลินการ์ด ยิงมุมแคบ แต่ เอแดร์ซอน ก็ยังปัดออกหลังไปได้
ทว่านาทีที่ 85 แมนฯ ซิตี้ ก็มาตีไข่แตก 1-2 จนได้ เมื่อ ริยาด มาห์เรซ เปิดลูกเตะมุมมาเข้าหัว นิโกลัส โอตาเมนดี้ ตัวสำรองโหม่งจมตาข่ายไม่เหลือ
เพียงนาทีถัดมา เรือใบเกือบตีเสมอได้เลย จากจังหวะที่ มาห์เรซ ลุยเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนยิงด้วยซ้าย แต่ เด เคอา เซฟได้เหลือเชื่อ
ช่วงเวลาที่เหลือ แม้เรือใบจะเดินหน้าบุกหนัก แต่ผีแดงก็ยังเอาตัวรอดรักษาสกอร์ไว้ได้ จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฟร์นันดินโญ่, อังเคลินโญ่ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, ดาบิด ซิลบา – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด – แดเนียล เจมส์, เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อองโตนี่ มาร์กซิยาล
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
https://line.me/R/ti/p/%40clic88th