สิ่งที่ช้างศึกต้องทำหากหวังบุกชนะฟิลิปปินส์
อีกไม่กี่ชั่วโมงขุนพลทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การกุมบังเหียนของ มิโลวาน ราเยวัช จะลงสนามในนัดที่ 3 ของกลุ่ม บี ในศึกฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” บุกไปเยือนทัพ “ดิ อัซคาลส์” ทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่มี สเวน โกรัน อีริคสัน กุนซือชาวอังกฤษมา
โดยก่อนที่เกมระหว่าง ทีมชาติไทย บุกไปเยือนฟิลิปปินส์ จะเริ่มขึ้นในเวลา 18.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เราจะพาไปดูเหตุผลชัดๆ 5 ข้อ ที่จะพาแข้งช้างศึก บุกโค่น ฟิลิปปินส์ คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ !
1. แท็กติกต้องเจ๋ง ความผิดพลาดต้องน้อยที่สุด
มิโลวาน ราเยวัช จะใช้ระบบ 4-2-3-1 ที่เขาคิดว่าเหมาะสมและรัดกุมที่สุดสำหรับทีมชาติไทยอย่างแน่นอน จากที่ได้เห็นเมื่อสองเกมที่ผ่านมา แผนนี้จะทำให้ไทยเล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง ขณะที่กองกลางก็มีจำนวนมากพอที่จะหยุดยั้งเกมรุกของคู่แข่ง
นอกจากการวางไลน์อัพแล้ว ในระบบการเล่นของ ‘ราเยวัช’ เราจะเห็นการตั้งโซนที่ดีขึ้นกว่าเดิม การยืนพื้นที่เป็นตำแหน่ง ‘ราเยวัช’ สามารถนำมาผสมผสานกับแข้งช้างศึกได้อย่างลงตัว หากเกมเจอกับฟิลิปปินส์ แท็กติกของ ‘ราเยวัช’ ยังละเอียดแบบนี้ และลดข้อผิดพลาดส่วนบุคคลลงไปได้อีก โอกาสที่จะบุกเก็บ 3 แต้มในแดนตากาล็อก ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม
2. กึ๋น “ราเยวัช” ต้องเหนือกว่า “อีริคสัน”
มิโลวาน ราเยวัช กุนซือวัย 63 ปีของไทย เคยคุมทีมชาติกาน่าเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้มาแล้ว ขณะที่ สเวน โกรัน อีริคสัน เทรนเนอร์วัย 70 ปี ก็เคยคุมทีมชาติอังกฤษ ผ่านฟุตบอลโลก มาแล้วถึง 2 ครั้งในปี 2002 และปี 2006 เช่นกัน
อย่างไรก็ตามหากวัดประสบการณ์การคุมทีมเป็นทาง ‘อีริคสัน’ ที่ผ่านประสบการณ์คุมทีมมาอย่างโชกโชนกว่า 7 ประเทศ ยังดูเหนือกว่า ‘ราเยวัช’ อยู่พอสมควร ดังนั้น ‘ราเยวัช’ ต้องงัดประสบการณ์ที่มีทั้งการวางแท็กติก รวมถึงการเปลี่ยนตัวทั้ง 3 คนระหว่างเกมให้มีความละเอียดมากที่สุด
3. ระวังทีเด็ดจากตระกูล ‘ยังฮัสแบนด์’
“ฟิล” และ “เจมส์” สองพี่น้องตระกูล “ยังฮัสแบนด์” คู่นี้อาจไม่เหมือนแข้งลูกครึ่งรายอื่นของฟิลิปปินส์ที่เพิ่งมาติดทีมชาติเอาตอนชุดใหญ่ เพราะพวกเขาเล่นให้ทีมชาติฟิลิปปินส์ มาตั้งแต่ซีเกมส์ปี 2005 เมื่อสหพันธ์ฟุตบอลฟิลิปปินส์มารู้ว่าสองพี่น้อง “ยังฮัสแบนด์” มีสิทธิ์เล่นให้ชาติบ้านเกิดได้
และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้กลายเป็นกำลังหลักของทีมชุดใหญ่อยู่ตลอด อีกทั้ง ฟิล ยังฮัสแบนด์ ยังครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลและผู้เล่นที่ลงรับใช้ทีมชาติมากที่สุดอีกด้วย ถือเป็นสองแกนหลักที่สำคัญของทัพ “ดิ อัซคาลส์” ที่แข้งช้างศึกต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ
4. สถิติชี้ชัด ฟิลิปปินส์ไม่เคยชนะไทย
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อนั่นคือสถิติการพบกันในรายการนี้ของทั้งสองทีม โดย ฟิลิปปินส์ เคยเจอกับไทย มาแล้วทั้งหมด 9 ครั้ง แต่เป็นทีมชาติไทย ที่เอาชนะได้ถึง 8 ครั้ง เสมอ 1 ครั้งยังไม่เคยแพ้แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งสถิติประกอบด้วย (วันที่ 25 พ.ศ.2016) ฟิลิปปินส์ แพ้ ไทย 0-1 , (วันที่ 10 ธ.ค.2014) ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0
(วันที่ 6 ธ.ค.2014) ฟิลิปปินส์ เสมอ ไทย 0-0 , (วันที่ 24 พ.ย.2012) ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 , (วันที่ 14 ม.ค.2007) ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 4-0 , (วันที่ 16 ธ.ค.2004) ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 , (วันที่ 12 พ.ย.2000) ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 , (วันที่ 29 ส.ค.1998) ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 และวันที่ 2 ก.ย.1996 ฟิลิปปินส์ แพ้ ไทย 0-5
5. สังเวียนแข้งถูกโฉลกกับช้างศึก
สนามปานาอัด ปาร์ค สเตเดี้ยม จะเป็นสังเวียนการแข่งขันของเกมคู่นี้ ซึ่งหากย้อนหลังไปเมื่อปีพ.ศ.2548 ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 23 สนามแห่งนี้ช่างถูกโฉลกกับทีมชาติไทย เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เนื่องจากทัพช้างศึก สามารถเอาชนะรวดตั้งแต่รอบแรก ยันนัดชิงชนะเลิศ ทำให้คว้าเหรียญทองไปครอบครองในครั้งนั้น
แม้หลายคนอาจจะดูวิตกกังวล หลังเห็นสภาพสนามที่ล้อมไปด้วยป่าไม้ แถมหญ้ายังใบใหญ่อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามสนามแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสังเวียนในเกมระดับชาติ รวมถึง ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย อย่าง “เอเอฟซี คัพ” มาแล้วอีกด้วย
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันระหว่างทีมชาติฟิลิปปินส์ พบกับ ทีมชาติไทย จะแข่งขันในวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ณ สนามปานาอัด สเตเดี้ยม ตามเวลาประเทศไทย 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี
เรื่อง : กอล์ฟ เบนเทเก้
ภาพ : เจฟฟี่ เด็กวัดป่า
ใครกำลังมองหาเว็บมั่นคง โปรโมชั่นดีๆ มากมาย
เว็บการันตีการเงิน ฝาก-ถอน เป็นล้านก็ไม่มีปัญหา
Betclic88-Thai แทงบอลออนไลน์ คาสิโน ครบ ฝากยอดแรกรับโบนัส 20% ทันที แอดเลย line : @clic88TH อย่าลืม!! ใส่ @ ด้วยนะ…
https://line.me/R/ti/p/%40clic88th